5 วิธีเพิ่มความสูง ด้วยวิธีทางการแพทย์ วิธีไหนได้ผลที่สุด

การเพิ่มความสูงด้วยวิธีทางการแพทย์ยอดนิยมที่พ่อแม่หลายบ้านมักเลือกเป็นทางเลือกลัดเพิ่มความสูงให้แก่ลูก เพราะส่วนสูงนั้นถึงแม้ว่าจะถูกกำหนดด้วยพันธุกรรมเป็นปัจจัยหลัก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ถ้ามีพ่อแม่เตี้ย ลูกก็จะต้องเตี้ยเสมอไป เนื่องจากทางการแพทย์ในปัจจุบันได้มีการพัฒนาวิธีเพิ่มส่วนสูงไว้แล้วหลากหลายวิธี วันนี้เราจึงจะมาพูดถึงเรื่องนี้กันค่ะว่า มีอะไรบ้าง?

4 หลักการเพิ่มความสูง และปัจจัยที่จะช่วยให้สูง มีอะไรบ้าง

พ่อแม่เตี้ย ลูกมีโอกาสสูงหรือไม่?

5 วิธีเพิ่มความสูง ด้วยวิธีทางการแพทย์ มีวิธีไหนบ้าง

1. ฉีดยาเพิ่มความสูง

เนื่องจากความสูงของเรามีปัจจัยด้านฮอร์โมนเป็นตัวกำหนดค่อนข้างเยอะ ฮอร์โมนชนิดนี้ก็คือ “โกรวท์ฮอร์โมนเพิ่มความสูง” หรือ GH (Growth hormone) ซึ่งโดยปกติแล้วโกรวท์ฮอร์โมนจะถูกหลั่งออกมาเป็นจำนวนมากในช่วงวัยที่มีพัฒนาการทางร่างกาย (หรือช่วงอายุ 11-13 ปี) ซึ่งจะหลั่งออกมาในเวลาที่เรานอนหลับ โดยฮอร์โมนชนิดนี้จะช่วยยืดกระดูกให้ขยายทำให้ส่วนสูงเพิ่มขึ้น แต่หากฉีดเพิ่มเข้าไปนั้นมักจะส่งผลเสียมากกว่า เช่น ทำให้มีน้ำตาลในเลือดสูง หากฉีดเยอะเกินไปอาจจะเสี่ยงทำให้เด็กเป็นโรคเบาหวาน โรคกระดูก โรคความดันโลหิตสูงและกระตุ้นให้เกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ แต่สำหรับใครที่ต้องการเพิ่มโกรวท์ฮอร์โมนด้วยวิธีธรรมชาติ สามารถเข้าไปอ่านต่อได้ที่ ฮอร์โมนความสูง วิธีเพิ่ม Growth hormone ให้หลั่งออกมามากขึ้น

2. ทานอาหารเสริม 

อาหารเสริมเพิ่มความสูงที่หลาย ๆ คนอาจจะเห็นผ่านตาและมักจะมีการโฆษณาว่า สามารถช่วยเพิ่มความสูงได้ เนื่องจากมีส่วนประกอบของสารอาหารที่จำเป็นต่อการพัฒนามวลกระดูกเช่น Colostrum, Niacin, และ Amino Acids แต่อาหารเสริมเหล่านี้นั้นไม่ได้เหมาะกับทุกคนเพราะร่างกายของคนแต่ละคนไม่เหมือนกัน ดังนั้นก่อนทานควรจะปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง 

โคลอสตรุม (Colostrum) ช่วยเพิ่มความสูงได้อย่างไร?

แคลเซียมเพิ่มความสูง จริงหรือไม่? กินแคลเซียมเยอะ ตัวสูงไว

3. ผ่าตัดเพื่อเพิ่มความสูง

การผ่าตัดต่อกระดูกเพื่อเพิ่มความสูง เป็นวิธีการหนึ่งที่มีมาอย่างยาวนานที่ช่วยในการเพิ่มความสูงได้ ซึ่งวิธีการทำก็คือ แพทย์จะทำการวางยาสลบ และใช้อุปกรณ์สำหรับยืดกระดูกทั้งสองข้าง เพื่อยืดกระดูกออกจากกันวันละประมาณ 1 มิลลิเมตร ซึ่งวิธีการนี้จะสามารถช่วยเพิ่มความสูงได้มากถึง 5 เซนติเมตร แต่วิธีนี้มักมีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน เช่น กระดูกอาจจะเบี้ยว ไม่ตรง เสี่ยงเป็นอัมพาต และอาจจะทำให้ระหว่างการรักษาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้สะดวก หรือในบางกรณีอาจจะต้องงดการเคลื่อนไหวนานถึง 1-2 เดือน ไม่งั้นอาจจะเสี่ยงต่อการบาดเจ็บได้ จึงอาจจะไม่เหมาะสำหรับผู้รักษาที่เป็นเด็ก

4.ฝังเข็มเพิ่มความสูง

การฝังเข็มเพื่อเพิ่มความสูงเป็นวิธีทางการแพทย์แผนจีนวิธีหนึ่ง วิธีนี้จะเป็นวิธีรักษาด้วยการฝังเข็มเข้าไปเพื่อกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งโกรวท์ฮอร์โมน (Growth hormone) ออกมา ซึ่งฮอร์โมนชนิดนี้มีส่วนช่วยให้เพิ่มความสูง แต่วิธีนี้จะได้ผลที่สุดกับเด็กที่อยู่ในวัยที่กำลังมีพัฒนาการทางร่างกายเท่านั้น หากถ้าให้อายุ 20 ปี หรือกระดูกปิดแล้วอาจจะไม่ได้ผลเท่าที่ควร

5.การทำกายภาพเพิ่มความสูง

วิธีนี้จะเน้นการทำกายภาพบำบัด เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีทางการแพทย์สมัยใหม่ที่พ่อแม่หลาย ๆ บ้านนิยมเลือกใช้ เนื่องจากเพิ่มความสูงได้อย่างปลอดภัย ไม่เจ็บ คล้ายกับการออกกำลังกาย ไม่ต้องเข้ารับการผ่าตัด และไม่ต้องทานอาหารเสริม เน้นการยืดตัวเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในร่างกาย กระตุ้นให้สร้างเซลล์กระดูกทำให้มวลกระดูกแข็งแรง เป็นวิธีที่ใช้ได้ทุกเพศทุกวัยแต่จะได้ผลมากที่สุดในช่วงวัยที่มีพัฒนาการทางร่างกาย (ประมาณ 11-15 ปี ) เนื่องจากวัยนี้จะเป็นช่วงที่มีการผลิต Epiphysial plate บริเวณข้อต่อกระดูกซึ่งเมื่อมีการทำกายภาพยืดกระดูกบ่อย ๆ จะช่วยทำให้ส่วนสูงพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว สามารถเห็นผลได้อย่างรวดเร็ว เห็นผลหลังทำทันที และที่สำคัญยังช่วยปรับบุคลิกภาพเช่น แก้หลังคด กระดูกงอให้สามารถนั่ง ยืน เดิน ให้ดูสง่าและดูดีขึ้นอีกด้วยค่ะ 

• 5 วิธีเพิ่มความสูง แบบผิด ๆ อยากสูงแต่ไม่สูงเพราะเชื่อวิธีผิด
• 10 อาหารเพิ่มความสูง เพิ่มสร้างมวลกระดูก โอกาสสูงอยู่แค่เอื้อม
• 10 วิธี สังเกตพฤติกรรมส่วนสูงเพิ่มช้ายิ่งโตยิ่งเตี้ย อะไรทำให้ไม่สูงสักที